ข้อดีของภาพเคลื่อนไหว
1. ดึงดูดความสนใจ (Attention Getter / Impact)
2. การจำลองสถานการณ์ (Simulation)
3. เพิ่มความรวดเร็วในการสร้างสื่อ (Increased speed of production)
4. มีการปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้เรียน (Interactivities)
5. ง่ายต่อการแก้ไข (Ease of revision)
1. ดึงดูดความสนใจ (Attention Getter / Impact)
เนื่องจากคนเราเรียนรู้จากการฟังได้เพียง 10 เปอร์เซ็นต์ แต่เราเรียนรู้จากการมองเห็นถึง 80 เปอร์เซ็นต์ ดวงตาของคนเราจะพยายามมองวัตถุที่กำลังเคลื่อนไหว จะติดตามการเคลื่อนไหวนั้น ๆ ทำให้เราสามารถจดจำสิ่งที่เราเห็นได้อย่างยาวนาน
ที่มา: https://www.shutterstock.com/image-vector/go-other-way-cartoon-father-trying-143855311
2. การจำลองสถานการณ์ (Simulation)
การใช้ภาพเคลื่อนไหวในการสื่อสาร จะได้ผลมากเมื่อนำมาใช้ในการจำลองสถานการณ์ เช่น การทดลอง หรือปรากฏการณ์ธรรมชาติ โดยเฉพาะเหตุการณ์ร้ายแรงหรือสิ่งที่ไม่ควรมองด้วยภาพจริง เช่น ด้านกายวิภาคศาสตร์ หรือสิ่งที่ไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า
ที่มา: https://www.istockphoto.com/th/
3. เพิ่มความรวดเร็วในการสร้างสื่อ (Increased speed of production)
ภาพเคลื่อนไหวสามารถอธิบายเหตุการณ์หรือเรื่องราวต่าง ๆ ได้ดี ไม่จำเป็นต้องสร้างสื่ออธิบายเหตุการณ์หรือเรื่องราวนั้น ๆ มากมายนัก ก็สามารถเข้าใจได้ ดังนั้นไม่จำเป็นต้องสร้างสื่อมากก็สามารถอธิบายเรื่องราวได้ทำให้การสร้างสื่อทำได้รวดเร็วขึ้น
4. มีการปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้เรียน (Interactivities)
- สร้างแรงจูงใจในการเรียนรู้
- ดึงดูดความสนใจ โดยใช้เทคนิคการนำเสนอด้วยภาพสวยงามและเหมือนจริง
- ผู้เรียนมีการโต้ตอบ มีโอกาสเลือกตัดสินใจและได้รับการเสริมแรงจากการได้รับข้อมูลย้อนกลับทันที
- ผู้เรียนสามารถเรียนรู้ได้ตามเนื้อหาที่สนใจ และความสามารถของตนเอง บทเรียนมีความยืดหยุ่น สามารถเรียนซ้ำได้ตามที่ต้องการ
- สร้างความพึงพอใจแก่ผู้เรียน เกิดทัศนคติที่ดีต่อการเรียน
ที่มา : https://hilight.kapook.com/view/206048
5. ง่ายต่อการแก้ไข (Ease of revision)
การสร้างภาพเคลื่อนไหว ต้องมีการจัดทำข้อมูลต้นฉบับ ในรูปแบบต่าง ๆ และสามารถนำมาปรับปรุงหรือแก้ไขได้ แล้วสร้างเป็นภาพเคลื่อน ไหวใหม่ได้สะดวกและรวดเร็ว
ที่มา : https://www.lkp.ac.th/animation